สมาคมฟุตบอลเลือก‘ช้าง อารีน่า’จ.บุรีรัมย์จัดศึกคิงส์คัพมิ.ย.นี้

จากเดิมที่มักดวลแข้งกันที่กรุงเทพ แต่สำหรับศึกฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 ในเดือนมิ.ย.นี้ เตรียมโยกไปเตะกันที่สนามช้าง อารีน่า จ.บุรีรัมย์ เพื่อให้แฟนบอลต่างจังหวัดได้สัมผัสแข้งช้างศึกอย่างใกล้ชิด

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีมติเลือกสนามช้าง อารีน่า จ.บุรีรัมย์ เป็นสังเวียนจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 5-8 มิ.ย.นี้ โดยนายศุภสิน ลีลาฤทธิ์ อุปนายกสมาคมฯ ฝ่ายจัดการแข่งขัน สล็อต กล่าวว่าต้องการให้แฟนบอลต่างจังหวัดได้มีโอกาสชมการแข่งขันของทีมชาติไทยอย่างใกล้ชิด และสนามช้าง อารีน่า ก็มีความพร้อมและได้มาตรฐานจัดการแข่งขันในระดับ A Match ของฟีฟ่า

“สนามช้าง อารีน่ามีความเหมาะสม สามารถรองรับได้ ทั้งความจุ สภาพสนาม สนามซ้อม โรงเเรมที่พัก การเดินทาง และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เมื่อนำทุกอย่างมารวมกันแล้วที่ประชุมมีมติว่าจะทำการจัดการแข่งขันที่ สนามช้าง อารีนา จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งจุแฟนบอลได้ถึง 32,600 ที่นั่ง มีสนามซ้อมที่เพียงพอ นอกจากนี้ความพิเศษจะอยู่ที่การเชิญแฟนบอลในโซนภาคอีสานมาสัมผัสกับบรรยากาศการแข่งขันของทีมชาติไทยด้วย” นายศุภสิน กล่าว

สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ จะจัดการแข่งขันที่สนาม ช้าง อารีนา จังหวัดบุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 5-8 มิถุนายน 2562 โดยมีทีมเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 4 ทีมประกอบไปด้วย ไทย (เจ้าภาพ), อินเดีย, เวียดนาม และอีกทีมอยู่ระหว่างเจรจา โดยการแข่งขันทุกนัดจะได้รับการรับรองจากฟีฟ่า และ เอเอฟซี ให้เป็น แมตช์ระดับ International 'A' Match และมีการนำผลลัพธ์ไปคำนวนคะแนนฟีฟ่า แรงกิ้ง โดยทุกนัดจะถ่ายทอดสดทางไทยรัฐ ทีวี ช่อง 32

ทีมชาติไทยขยับ 1 อันดับ ขึ้นมารั้งที่ 114 ของโลก แต่ยังคงเป็นเบอร์สองของอาเซียน ตามหลังเวียดนาม ซึ่งอยู่ที่ 98 ของโลก สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ประกาศอันดับโลกอย่างเป็นทางการครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ขุนพล “ช้างศึก” ทีมชาติไทยขยับขึ้น 1 อันดับ UFA23 จากเดิมที่ 115 ขึ้นมารั้งอันดับ 114 ของโลก หลังจากทำผลงานคว้ารองแชมป์ศึกลูกหนังสี่เส้า “ไชน่าคัพ 2019” ที่ประเทศจีน เมื่อเดือนที่แล้ว อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเฉพาะชาติย่านอาเซียน ทีมชาติไทยยังคงเป็นทีมอันดับ 2 ต่อจากทีมชาติเวียดนาม ซึ่งรั้งอันดับ 98 ของโลก และเป็นอันดับโลกที่สูงที่สุดของทัพนักเตะ “ดาวทอง” ในรอบ 16 ปีเลยทีเดียว

ส่วนทีมอันดับ 1 ของโลกยังคงเป็น “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” ทีมชาติเบลเยียม ซึ่งยึดตำแหน่งนี้มาตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว ตามด้วยฝรั่งเศส บราซิล อังกฤษ โครเอเชีย อุรุกวัย โปรตุเกส สวิตเซอร์แลนด์ สเปน และเดนมาร์ก ในกลุ่มท็อป 10ขณะที่ทีมอันดับ 11-20 ได้แก่ อาร์เจนตินา โคลอมเบีย เยอรมนี สวีเดน ชิลี เนเธอร์แลนด์ อิตาลี เม็กซิโก เวลส์ และโปแลนด์ ตามลำดับ ส่วนอันดับ 21 เป็นทีมชาติอิหร่าน ซึ่งเป็นทีมอันดับ 1 ของเอเชีย