ไทเกอร์ยกคุณแม่“กุลธิดา”กุญแจสำคัญคัมแบ็กสู่แชมป์

“พญาเสือ” ไทเกอร์ วู้ดส์ ยกย่องคุณแม่ชาวไทย “กุลธิดา” เป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้กลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง หลังจากซิวแชมป์เมเจอร์เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี ในศึกมาสเตอร์ส 2019 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

การแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์ “มาสเตอร์ 2019” ที่สนามออกัสตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา จบลงด้วยชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของ “พญาเสือ” ไทเกอร์ วู้ดส์ ซึ่งคว้าแชมป์ไปครองด้วยผลงาน 13 อันเดอร์พาร์ 275 เฉือนรองแชมป์คือ ดัสติน จอห์นสัน, บรูค โคปก้า และซานเดอร์ ชาฟเฟล เพียงสโตรกเดียว โดยถือเป็นแชมป์เมเจอร์รายการแรกในรอบ 11 ปีของวู้ดส์ นับตั้งแต่ได้แชมป์ยูเอส โอเพ่น 2008

ทั้งนี้ภายหลังคว้าแชมป์ได้สำเร็จ วู้ดส์เข้าไปสวมกอดคุณแม่ กุลธิดา, ลูกสาว แซม อเล็กซิส วัย 11 ขวบ, ลูกชาย ชาร์ลี อักเซล วัย 10 ขวบ และแฟนสาว เอริกา เฮอร์แมน ที่มาให้กำลังใจถึงขอบสนาม ขณะเดียวกัน โปรหนุ่มวัย 43 ปี กล่าวยกให้ครอบครัว โดยเฉพาะคุณแม่ กุลธิดา ที่เป็นกำลังใจสำคัญมาโดยตลอด หลังจากที่ก่อนหน้านี้วู้ดส์เผชิญมรสุมชีวิต รวมถึงประสบปัญหาอาการบาดเจ็บเรื้อรังตลอดหลายปีที่ผ่านมา

“มันเป็นอะไรที่เหลือเชื่อมาก ตลอดระยะเวลา 22 ปีของการเล่นกอล์ฟ สิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นเหมือนเดิมเสมอคือ คุณแม่จะคอยอยู่ข้างผมตลอด วันนี้เราทำแล้ว ผมรักแม่มากครับ”

ขณะเดียวกัน ความสำเร็จครั้งนี้ยังทำให้วู้ดส์คิดถึงคุณพ่อ “เอิร์ล วู้ดส์” ซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อปี 2006 ด้วยวัย 74 ปี โดยวู้ดส์เล่าย้อนความหลังว่าศึกมาสเตอร์สคือกอล์ฟเมเจอร์รายการแรกที่เขาได้แชมป์เมื่อปี 1997 ซึ่งหลังจากได้แชมป์ครั้งนั้น วูดส์เข้าไปสวมกอดคุณพ่อทันที ส่วนแชมป์ในครั้งนี้ เขากลายเป็นคุณพ่อที่เข้าไปสวดกอดลูกๆแทน

“การที่ลูกๆของผมมาอยู่ที่นี่ด้วย มันเหมือนการครบรอบวงจรชีวิต เพราะว่าพ่อของผมเคยอยู่ที่สนามแห่งนี้เมื่อปี 1997 ส่วนตอนนี้ ผมอยู่ในฐานะคุณพ่อ พร้อมกับลูกอีก 2 คน”

นอกจากนี้ผลงานแชมป์มาสเตอร์ส 2019 ทำให้วูดส์ขยับจากอันดับ 12 ขึ้นมารั้งมือ 6 ของโลก ส่วน ดัสตัน จอห์นสัน โปรชาวสหรัฐ ซึ่งได้รองแชมป์มาสเตอร์สขยับจากมือ 2 โลกขึ้นมาเป็นมือ 1 ของโลก แทนที่ จัสติน โรส โปรชาวอังกฤษ

“บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ทะลุเข้าชิงชนะเลิศแบดมินตันสิงคโปร์ โอเพ่น หลังจากโชว์ฟอร์มสุดยอดปราบคู่มือ 1 ของโลกจากจีน ในรอบตัดเชือก

ศึกแบดมินตันระดับซูเปอร์ 500 รายการ “สิงคโปร์ โอเพ่น 2019” ชิงเงินรางวัลรวม 355,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 11 ล้านบาท) ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 13 เม.ย. “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย นักแบดมินตันประเภทคู่ผสม มือ 4 โลกของไทย ลงแข่งขันรอบรองชนะเลิศพบกับ เจิ้งซีเว่ย และ ฮวงหย่าเฉียง คู่มือ 1 ของโลกจากจีน ซึ่งคู่นักตบลูกขนไก่ไทยยังไม่เคยเอาชนะได้เลยจากการเจอกันมา 6 ครั้งก่อนหน้านี้

เกมแรก คู่ของจีนออกสตาร์ทได้ดีกว่า ทิ้งห่างถึง 11-5 แต่คู่นักตบไทยฮึดทำ 7 แต้มรวด พลิกกลับมาแซง 12-11 จากนั้นแต้มเบียดสูสีกันจนต้องลุ้นถึงช่วงดิวซ์ และเป็นคู่ของบาส-ปอป้อที่เบียดเข้าป่ายไปได้ 24-22 ขึ้นนำ 1-0 เกม

จากนั้นเกมที่สอง รูปเกมยังคงคู่คี่สูสีเช่นเดิม แต่สุดท้ายเป็นคู่นักตบไทยที่เอาชนะไปได้อย่างตื่นเต้น 21-19 สรุปคู่ไทยคว้าชัย 2 เกมรวด 24-22, 21-19 และเป็นครั้งแรกที่บาส-ปอป้อเอาชนะคู่ของ เจิ้งซีเว่ย และฮวงหย่าเฉียง ได้สำเร็จ

ทั้งนี้ เดชาพล และ ทรัพย์สิรี ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบกับ ตันเคียงเหม็ง กับ ไล่เป่ยจิง คู่มือ 26 ของโลกจากมาเลเซีย โดยเกมรอบชิงจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 14 เม.ย.